วันจันทร์, มิถุนายน 26, 2549

คุยให้สุข เมื่อเราฟังอย่างลึกซึ้ง ภาคจบ

.
.
สุนทรียสนทนา : คุยให้สุข เมื่อเราฟังอย่างลึกซึ้ง ภาคจบ
ความคิดเชิงบวกและญาณทัศนะ

เช้าวันสุดท้ายของสุนทรียสนทนา เราได้นั่งลอมวงอีกครั้ง พร้อมแลกเปลี่ยนอ.วิศิษฐ์ วังวิญญู

เรื่องหนึ่งที่อ.วิศิษฐ์พูดได้อย่างน่าสนใจและซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวันคือคือเรื่อง "ความคิดเชิงบวก" และ "ญาณทัศนะ"

*****************

ความคิดเชิงบวก


ในวงคุย มีคนสงสัยว่า ปัจจุบันมีการพูดถึงการมีความคิดเชิงบวกมาก แต่ไม่สามารถทำได้ซักที ทำไมนะ

อ.วิศิษฐ์บอกว่า ความคิดเชิงบวกเป็นเรื่องที่ดี แต่ทำยาก เพราะมันเกี่บยวเนื่องกับจิตไร้สำนึก แต่สิ่งที่เรารับรู้ทั้งหลาย เช่น เรียนหนังสือหรือทำงานเราถูกฝึกให้อยู่ในเรื่องจิตสำนึกเท่านั้น ในขณะที่จิตไร้สำนักถูกละเลยไป จิตไร้สำนึกอยู่ไหน หากให้เปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ จิตสำนึกเป็นโต๊ะทำงาน ในขณะที่จิตไร้สำนึกคือเครือข่ายที่บรรจุโลกทั้งใบซึ่งอาจหมายรวมถึงจักรวาล จิตไร้สำนึกทำงานมีประสิทธิภาพแม่นยำ เป็นฐานรองรับจิตสำนึกของเรา แต่ในชีวิตประจำวันของเรา เรามักไม่เคยมีโอกาสเข้าไปเรียนรู้ , รู้จัก , คุ้นเคย ที่จะได้ทำงานกับจิตไร้สำนึกของเราเลย

ในเรื่องคลื่นสมองซึ่งมีอยู่ 4 คลื่น ได้แก่ ALFA, TETA, DELTA, TETA และ DELTA หากเราฝึกโยคะมีสมาธินิ่งพอ จะเข้าไปเริ่มสัมผัสที่ BETA และ DELFA

BETA บุคลิกหน้าตาของ BETA คือถ้าเป็นหน้าคนคิ้วขมวด มี KEYWORDS 2 คำ คือ เร่งรีบและบีบคั้น หากรู้สึกว่าขณะนี้ตัวเองเร่งรีบและรู้สึกถูกบีบคั้น คลื่นสมองของเราจะมีความเร็ว 14 – 21 รอบต่อวินาที

ส่วน ALFA คลื่น ALFA มีKEYWORDS 2 คำ คือ ผ่อนคลายอย่างตื่นรู้ เวลาที่เราผ่อนคลายเราจะตื่นรู้ ข้างในเราจะตื่นมากกว่าเดิม ALFA เป็นภาวะที่เราเคลื่อนจากจิตสำนึกเข้มๆ ไปสู่ประตูรอยต่อระหว่างจิตสำนึกและจิตไร้สำนึก ทำให้จิตสำนึกได้เรียนรู้จากจิตไร้สำนึก

ขณะที่เราพยายามคิดแบบ POSSITIVE THINKING แต่คิดอยู่แค่ระดับจิตสำนึก แต่ลึกลงไป เราไม่ได้คิด POSSITIVE จิตไร้สำนึกของเรานั้นลบตลอดเวลา เราไม่รู้เท่าทันจิตไร้สำนึกของตัวเอง เนื่องจากจิตไร้สำนึกนั้นอนันตกาลใหญ่โตมโหฬารมาก จิตนั้นมีเมล็ดพันธุ์มากมายไปหมด

หากอธิบายแบบ “ติช นัท ฮันท์“ จะบอกว่า เรามีเมล็ดพันธุ์ต่างๆ มากมายเหมือนกันทั้งหมด แต่ปลูกไม่เหมือนกัน เรารดน้ำพรวนดินคนละต้น บางคนชอบรดน้ำพรวนดินต้นโกรธ ต้นหงุดหงิด ต้นรีบเร่ง ต้นควบคุม เพราะเราไม่มั่นใจ ไม่ไว้ใจผู้อื่น แต่ยิ่งคุมยิ่งหลุดออกจากมือ แล้วเราไม่ค่อยปลูกต้น POSITIVE เราไม่ค่อยรดน้ำพรวนดินต้นคิดด้านบวก ฉะนั้นความคิดเราจึงเป็นคิดแค่จิตสำนึก ยังลงไปไม่ถึงจิตไร้สำนึก

บางคนสงสัยคิดบวกแล้วทำไมไม่ได้ผล เพราะคิดบวกแต่อารมณ์ลบ ลึก ๆ คิดสาปแช่งตัวเองอยู่เรื่อย ๆ เชื่อว่าซวยแน่ ๆ ชีวิตเราแย่แน่ๆ และคนคิดแบบนี้จะเจอทุกที บางคนคิดว่าเราจะต้องถูกกลั่นแกล้ง ชีวิตนี้เกิดมาโดนแกล้งตลอดเวลา เพราะฉะนั้นคน ๆ นั้นก็จะถูกแกล้งตลอดชีวิต เพราะจิตไร้สำนึกไปเชื้อเชิญ ฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือต้องหัดรดน้ำพรวนดินให้ต้นบวกที่เราอยากส่งเสริม

*****************

ญาณทัศนะ : ปิ๊งแว้บ มาเอง ไม่ต้องสั่ง

อาการปิ๊งแว้บของอ.วิศิษฐ์ คือ ปัญญาที่เกิดขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องสั่ง โดยมักผ่านภาวะดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การทำงานด้วยจิตสำนึก ด้วยเหตุผล การหาข้อมูลเท่าที่มีที่หาได้รวบรวม ประมวล วิเคราะห์

ขั้นตอนที่ 2 หาคำตอบไม่ได้ กดดัน ตัน ส่งผลให้หงุดหงิด คับข้องใจ

ขั้นตอนที่ 3 การที่เข้าไปในจิตไร้สำนึกโดยเราไม่รู้ตัว ที่เรียกว่าการบ่มเพาะคล้ายกับไก่ฟักไข่ หรือเมล็ดพันธุ์ที่ถูกฝังไว้ในดิน รอคอยเวลา ให้จิตไร้สำนึกภายใต้ข้อมูลต่าง ๆ

ขั้นตอนที่ 4 เกิดญาณทัศนะ หรือปิ้งแว้บ

ขั้นตอนที่ 5 การแปลญาณทัศนะออกมาเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์

ขณะที่เกิดญาณทัศนะ เราจะไม่ได้เข้าใจเป็นคำพูดหรือภาษาที่ใช้สื่อสารกัน แต่มั่นใจเต็มร้อยว่า “นี่แหละใช่แล้ว“ ยกตัวอย่างเช่น สถาปนิกแปลแบบออกมาเป็นเส้นสาย นักดนตรีก็จะแปลออกมาเป็นตัวโน๊ต นักเขียนหรือนักข่าวก็จะแปลออกมาเป็นคำพูด เป็นข้อความ เพื่อใช้ในการเขียน

คนทำข่าวส่วนใหญ่มักจะพยายามไปคิดเค้นและก็ล้มเหลวเพราะไม่เข้าใจในกระบวนการของจิตไร้สำนึก หากมีความเข้าใจก็จะไม่ไปคิดเค้น แต่จะบ่มเพาะและเตรียมการในประเด็นต่างๆ ตลอดเวลาแต่เนิ่นๆ ล่วงหน้า รวมทั้งหมั่นฝึกและวางใจในตัวเอง เมื่อฐานการเตรียมการมีความพร้อมบนความมั่นใจ ในขณะที่ญาณทัศนะโผล่ปรากฏจะเป็นความลงตัวในห้วงเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุด ญาณทัศนะจะนำไปสู่คำตอบที่ใหญ่โตกว่าที่คิด

แม้ว่าชีวิตของคนทำข่าวจะอยู่ ภายใต้เงื่อนไขของ Deadline ก็ตาม หากเราวางใจตัวเองมากพอ และดำรงอยู่ใน ALFA จะเป็นเรื่องมหัศจรรย์ มันจะมีความลงตัวที่พอดีเกิดขึ้น เหมือนคำกวีที่ว่า “เมื่อ DEADLINE กลายเป็นความรื่นรมย์“ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเชื่อตัวเองหรือไม่

และทุกคนมีความสามารถเข้าสู่ญาณทัศนะได้เท่ากัน แต่ญาณทัศนะอยู่ในจิตไร้สำนึก จิตไร้สำนึกเป็นเมล็ดพันธุ์ ถ้าเราไปปลูกรดน้ำต้นเมล็ดพันธุ์ของ BETA คือ ผ่อนคลายและตื่นรู้มากๆ เราจะได้ยินเสียงของญาณทัศนะ เปรียบเสมือนเราอยู่ในห้องที่มีเสียงอึกทึกครึกโครม ยืนอยู่บนถนนที่รถวิ่งอยู่ตลอดเวลา เราจะไม่มีทางได้ยินเสียงจิ้งหรีดร้องเบาๆ ญาณทัศนะคือเสียงของจิ้งหรีด

*************************

จบการแลกเปลี่ยน ตกบ่ายเราหลายคนร่ำลา ขอบคุณและกลับบ้าน รอยยิ้มของหลายคนอิ่มเอม เปี่ยมสุข และมีพลัง

May the force be with you . . .

ไม่มีความคิดเห็น: