เพื่อลูก เพื่อมนุษยชาติ
โดยกรรณจริยา สุขรุ่ง
ก่อนจะสาธยายความ ต้องขอชี้แจงมูลเหตุที่ลุกมาเขียนเรื่องที่ไกลตัวมาก ๆ อย่าง การตั้งท้อง บังเอิญได้ยินเสียงอันห่วงใยของเพื่อนชายที่กำลังเตรียมตัวจะเป็นพ่อคน บ่นมาว่าภรรยาสุดที่รักเล่นเกมคอมพิวเตอร์นานมาก เป็นคุณแม่ติดเกม
เราก็เลยพลอยห่วงใยไปด้วย และขอโอกาสนี้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่หมั่นศึกษามานมนาน แต่เห็นจะไม่ได้ใช้กับตัวเอง
การปฏิสนธิ เป็น ความมหัศจรรย์แห่งชีวิต เพราะเป็นโอกาสแห่งชีวิต โอกาสที่จะบรรลุถึงความประเสริฐแห่งความเป็นมนุษย์ของผู้ที่กำลังจะถือกำเนิด มาร่วมเฉลิมฉลองกันเถอะ
เมื่อชีวิตเริ่มเกิดขึ้น เนื้อนาที่เป็นแหล่งบ่มเพาะหล่อเลี้ยง คือ ครรภ์มารดา ควรจะเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังจะมาร่วมเดินบนโลกกับเรา เราจำเป็นต้องตระหนักในหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ลูกคนนี้ไม่ใช่ลูกของเรา แต่เป็นลูกของโลก ของมนุษยชาติ สิ่งที่เขาเป็น เขาทำ อาจทำให้โลกใบนี้ดีขึ้น เขาอาจเป็นผู้ที่บำรุงหล่อเลี้ยงคนอื่นๆ ในโลกได้ การหล่อเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง ๆ จึงเท่ากับการดูแลโลก
การดูแลเด็กเริ่มนับแต่วันที่เขาอยู่ในท้องแม่ เรื่อยไปไม่จบสิ้น และทุกคนมีหน้าที่อันประเสริฐนี้ร่วมกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่แน่นอนว่า หน้าที่หลัก ตกอยู่ที่พ่อและแม่
แม่ต้องเสียสละนับแต่นาทีนี้ เสียสละความสุขส่วนตัวที่คุ้นชิน คิดให้มากขึ้นถึงความสุข สุขภาวะของทั้งตัวเองและลูก คนเรารับรู้โลกผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 6 ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ (ความคิดและอารมณ์) ดังนั้นต้องดูแลการเปิด ปิด การรับรู้นี้ให้ดี
ตา --- เคยได้ยินไหมว่า แม่ที่ดูรูปเด็กน่ารัก ๆ ลูกจะเกิดมาหน้าตาดี (แม่ของเราคงไม่รู้เรื่องนี้ น่าเสียดาย) ความหมายของมัน ก็คือ การดูในสิ่งที่เป็นกุศล ภาพที่ดูแล้วเกิดความรู้สึกดี งดงาม เบิกบานใจ เช่นภาพวิวทิวทัศน์ ภาพคนทำความดี ภาพกระตุ้นปัญญา อะไรทำนองนั้น อะไรที่เห็นแล้วทำให้จิตเศร้าหมอง รุนแรง โกรธ เกลียด ก็พยายามเลี่ยงไป ควรลด ละ การดูโทรทัศน์ เพราะเราคุมภาพที่เห็นไม่ค่อยได้
ที่สำคัญหากทำได้ ยิ้มให้ตัวเองทุกเช้า หรือทุกครั้งที่มองกระจก การยิ้มให้ตัวเอง เหมือนการยิ้มให้ลูกด้วยนะ อย่าคิดว่าลูกไม่รู้ เขารับรู้ได้จากพลังงานที่เราส่งให้เขา เราเห็นอะไร เขาก็เห็นด้วยนะ ผ่านทางใจอย่างไรเล่า
หู --- ฟังแต่เรื่องที่ทำให้จิตใจเบิกบาน เป็นสุข สงบ สนุกสนาน ฟังเพลงคลาสสิก เพลงบรรเลง ธรรมชาติ ที่สำคัญพยายามจัดสรรเวลาให้แม่และลูกอยู่กับความเงียบบ้างด้วยในแต่ละวัน การนั่งสมาธิเป็นวิธีที่ดี ทำให้เรานิ่ง สงบ เงียบ และ ถือเป็นการส่งถ่ายพลังที่ดีร่วมกันทั้งแม่และลูก
เราได้ยินอะไร เขาก็ได้ยินด้วยนะ ผ่านทางใจ ดังนั้นนอกจากการเลือกฟังเพลงที่ดีแล้ว ต้องเลือกได้ยินการสนทนาที่ดีด้วย พยายามเลี่ยงการสนทนาที่กระตุ้นความรุนแรง ความโกรธ การนินทา เราอยู่กับการสนทนาที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใย ความสงบ พ่อกับแม่ก็ควรพูดคุยกันอย่างอ่อนโยน เมตตากันด้วยนะ
นอกจากการฟังแล้ว ข้อนี้ยังเหมารวมการรับสารทางการอ่านด้วยนะ อ่านสิ่งที่ทำให้ใจดี เบิกบาน สงบนะ อย่าอ่านอะไรที่กระตันเร่งเร้า บีบคั้นใจ เครียดมากนัก อ่านหนังสือเด็ก นิทานสอนใจเตรียมไว้เลยก็ดี จะได้เล่าให้ลูกฟังก่อนนอน บทกวีก็ดีนะ
จมูก ---- การหายใจ หายใจลึกๆ ให้ถึงท้องเข้าไว้ ทุกครั้งที่หายใจลึก เราจะสงบเองโดยไม่ต้องพยายาม ลมหายใจที่ลงลึกทำให้เซลล์ในร่างกายยิ้ม (จริงนะ อย่างลบหลู่) ทำให้สุขภาพดี อารมณ์ดี แล้วยังมีส่วนทำให้คลอดง่ายด้วย
ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ หายใจลึก ๆ สัก 5 รอบ ทำไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน อ้อ หายใจลึก ยาว และ ค่อยๆ หายใจอย่างอ่อนโยน อย่าดึงลมหายใจแรง หากทำได้ ทุกครั้งที่หายใจเข้าลึก ยาว อ่อนโยน คิดส่งความรักให้ลูกด้วย ก็จะวิเศษมาก
ส่วนเรื่องกลิ่นนั้น ก็ไม่มีอะไรมากหรอก โดยหลักแล้ว จิตของเราจะกระเพื่อมเมื่อเกิดสัมผัส หากได้กลิ่นดี ก็เบิกบาน ผ่อนคลาย หากได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ ก็อาจอึดอัด อย่าไปได้กลิ่นบุหรี่นะ หรือควันไฟ ควันรถ พยายามเลี่ยงแล้วกัน
ลิ้น --- การพูดจา คำพูดเป็นลูกของความคิด ดังนั้นหากไม่มีอะไรดีๆ จะพูด ก้อเงียบเสียดีกว่า ระวังคำพูดนะจ๊ะ พูดในสิ่งที่ดีงาม เป็นกุศล เป็นมงคล คือ พูดความจริง (ไม่เอาจริงครึ่งเดียวนะ) พูดสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่ให้กำลังใจตัวเอง ให้กำลังใจผู้อื่น งดการนินทาผู้อื่นโดยเด็ดขาด (ซึ่งคุณแม่เก๋ไม่ทำอยู่แล้ว เท่าที่รู้จักกันมา)
พูดบอกรักลูกทุกวัน ทั้งพ่อและแม่นะ มีอะไรดี ๆ บอกลูก คุยกับลูกทุกวัน คุยอย่างที่เราจะคุยกับเพื่อนที่ไว้ใจที่สุด รักที่สุด อย่างนั้นเลย เราให้ความไว้ใจ เชื่อใจ มั่นใจ เคารพในตัวเขาได้แต่วันนี้
การเขียนก็จัดอยู่ในข้อนี้ด้วย ขอให้ระวังสิ่งที่เขียนนะ คล้ายๆ กับการพูดนั้นแหละ เขียนในสิ่งที่ดี เป็นกุศล เบิกบาน และเวลาทำงานเขียนก็พยายามอย่าเครียดมากนัก ชวนลูกคิดและเขียนด้วยก็ได้ เผื่อเขาจะมีไอเดียเด็ด ๆ
การกิน ก็ตามใจเลย แต่เอาอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งแม่และลูกนะ ไม่กินเหล้า ของดอง อยู่แล้วนี่นะ ของหวานเลี่ยงนะ เดี๋ยวลูกดุ การกินอาหารอาจมีผลต่อธาตุในตัวเด็กก็ได้นะ แค่มีส่วน เช่นหากแม่กินอาหารธาตุไฟมาก ลูกอาจเกิดเป็นเด็กธาตุไฟ อาหารธาตุไฟก็ อย่างเช่น พริก ผลไม้ ผักสีแดง อาการรสเปรี้ยวเผ็ด ลำไย ทุเรียน เป็นต้น ธาตุไฟก็ไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก แต่ถ้าทานมากไป ก็ทำให้เป็นคนใจร้อนเท่านั้น ดังนั้นควรเลือกทานอาหารให้มีรสชาติกลมกล่อม ผสมผสานและสมดุล ทานร้อนเผ็ดได้ แต่ไม่ทุกมื้อ บางมื้ออาจเป็นรสจืด รสฝาด เป็นต้น
กาย --- การสัมผัส สัมผัสที่ดี นุ่มนวล อ่อนโยน พ่อควรมีให้แม่กับลูกอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เป็นการสื่อสารความรัก ความห่วงใยแบบหนึ่ง
การออกกำลังกาย ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะ อย่างเบาๆ เราแนะนำ ชี่กง หรือ ไทเก๊ก ขอบอกดีจริง ๆ ง่าย สบาย เบา และได้พลังที่ดีมหาศาล แม่และเด็กจะแข็งแรง และที่สำคัญ นี่เป็นการฝึกจิตกับกายเป็นหนึ่ง และฝึกพลังภายในไปด้วย
เล่น --- เริ่มเล่นกับลูกได้เลย กลับไปเป็นเด็ก เล่นอะไรก็ได้ที่ทำให้เรามีรอยยิ้ม วิ่งเล่น ว่ายน้ำเล่นๆ ไปเที่ยว เล่นเกมเช่น scrabble หรือเกมแบบกล่อง ๆ ประลองไหวพริบปัญญา
ใจ – อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับทุกข้อที่พูดไปแล้ว ที่จะเสริมคือ การทำใจให้สบาย สงบ และ เป็นสุข จะด้วยการนั่นสมาธิ หรือ ผ่อนคลายอย่างลึก (จำ total relaxation) ได้ไหม ถ้าไม่ได้ ไว้จัดให้ ทำสมาธิทุกเช้า ทุกคืนหรือ ทุกเวลาที่คิดได้ ทำบ่อยๆ ถี่ ๆ แต่ไม่จำเป็นต้องนานก็ได้ เช่น 5 นาที ทุกครั้งที่นึกได้
สรุปสั้น ๆ
อยู่ในบรรยากาศที่ดี ธรรมชาติ มีพลัง อยู่ท่ามกลางคนที่ทำให้จิตใจเบิกบาน สงบสุข
พูดคุยกับลูกสม่ำเสมอ ฟังเสียงเสานะหู ดูภาพเบิกบานใจ
ยิ้มบ่อยๆ ให้ตัวเอง ให้สามี และให้ทุกคน
ออกกำลังกายเสริมพลังภายใน และพลังจิต
ไปเที่ยวสถานที่ธรรมชาติ สงบสงัดบ้าง อย่างเช่นพาลูกไปปลูกป่ากับแฮปปี้มีเดีย 1-2 พย นี้ ที่หัวหิน
ทำบุญ ทำกุศลทุก ๆ วัน รักษาศีล นั่งสมาธิ เดินสมาธิ ก็ใช้ได้แล้ว
เลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์ (นาน ๆ) งดเล่นเกม ลดการดู โทรทัศน์
งด ลด การอยู่ในที่เสียงดังมาก หรือถ้าจำเป็นการอย่านาน (อย่าไปโรงหนัง หรือ malls)
หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ ถ้าจำเป็นอย่าใช้นาน เพราะมีผลต่อสมองและหู
หากคุณแม่ทำตามนี้ หรือดีกว่านี้ มากกว่านี้ ก็ขอขอบคุณ เราเพียงหวังให้มีมนุษย์ที่ประเสริฐเพิ่มอีกคนในโลก เป็นพระโพธิสัตว์ได้ยิ่งดี
ด้วยรัก
วันพุธ, ตุลาคม 01, 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น