ด้วยขณะนี้สังคมไทยบางส่วนกำลังมีความขัดแย้งอย่างหนักถึงขั้นเผชิญหน้ากัน และเริ่มมีการใช้ความรุนแรงต่อกันจนมีการสูญเสียชีวิตบ้างแล้ว ในสภาพที่ต่างฝ่ายต่างยืนกรานในข้อเรียกร้องของตน ไม่ยอมโอนอ่อนเข้าหากัน การแยกข้างแบ่งขั้วจึงมีแนวโน้มที่จะลุกลามขยายตัวเป็นความรุนแรงรอบใหม่ที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายยิ่งกว่าเดิม หากถึงจุดนั้นเมื่อใดความหายนะอย่างใหญ่หลวงก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยทั้งประเทศอย่างยากจะเยียวยาได้ และจะกลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในใจของคนทั้งชาติไปชั่วกาลนาน
ในยามที่ความขัดแย้งยังไม่มีทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ และยังไม่มีฝ่ายใดยอมหันหน้าเข้าหากัน
มาตรการหนึ่งที่จะช่วยป้องกันมิให้ความรุนแรงเกิดขึ้นได้ ก็คือการไม่มีอาวุธหรืออุปกรณ์ที่ใช้เป็นอาวุธได้อยู่ในครอบครอง แม้ว่าแต่ละฝ่ายมีเหตุผลว่าเพื่อป้องกันตัวเองก็ตาม แต่การที่แต่ละฝ่ายมีอาวุธอยู่ในมือย่อมก่อความระแวงให้อีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้ต้องหาอาวุธมาไว้ป้องกันตนเองบ้าง ยิ่งสะสมมากเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันให้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นพวกเราจึงขอบิณฑบาตอาวุธจากทุกฝ่ายด้วย หากแต่ละฝ่ายแสดงให้เห็นอย่างเปิดเผยว่าฝ่ายของตนปลอดอาวุธอย่างสิ้นเชิง ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธี อันเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการเห็น
ความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหาได้ มีแต่จะสร้างปัญหาให้เพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ทุกฝ่ายมีความอดกลั้นต่ออารมณ์ ไม่ลุแก่โทสะ อย่าปล่อยให้ความโกรธ ความเกลียด และความกลัวครอบงำใจจนเห็นอีกฝ่ายเป็นศัตรูที่ต้องทำร้ายให้พินาศ พึงมีเมตตาและปรองดองต่อกันโดยระลึกเสมอว่าคนไทยทุกคนล้วนเป็นพี่น้องภายใต้พระบรมโพธิสมภารเดียวกัน
พระศรีญาณโสภณ
พระไพศาล วิสาโล
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
๙ กันยายน ๒๕๕๑
องค์กรร่วมสนับสนุน : องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก, ยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก,
พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย, ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย, เสถียรธรรมสถาน,
สถาบันวิมุตตยาลัย, เครือข่ายพุทธิกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น